เมนู

อรรถกถานิรยปาลกถา



ว่าด้วย นายนิรยบาล



บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องนายนิรยบาล. ในเรื่องนั้น ชนเหล่าใดมีความเห็น
ผิดดุจลัทธินิกายอันธกะทั้งหลายว่า ในนรก กรรมของสัตว์นรกนั่นแหละ
ย่อมฆ่าสัตว์นรกทั้งหลายโดยเป็นรูปนายนิรยบาล สัตว์ทั้งหลายชื่อว่าเป็น
นายนิรยบาลหามีไม่ ดังนี้ คำถามของสกวาทีหมายถึงชนเหล่านั้น คำ
ตอบรับรองเป็นของปรวาที. ลำดับนั้น สกวาทีจึงกล่าวคำว่า การทำ
กรรมกรณ์ คือการลงโทษ ไม่มีในนรกทั้งหลายหรือ
เป็นต้น เพื่อท้วงด้วย
คำว่า ถ้าว่า นายนิรยบาลทั้งหลายไม่พึงมีในนรกไซร้ แม้กรรมกรณ์
ทั้งหลายก็ไม่พึงมี แต่เมื่อกรรมกรณ์ทั้งหลายมีอยู่ การกระทำกรรมกรณ์
ก็พึงมี มิใช่หรือ ดังนี้.
คำว่า การทำกรรมกรณ์มีอยู่ในมนุษย์ สกวาทีกล่าวแล้วเพื่อ
ให้ทราบโดยแจ่มแจ้ง. ในข้อนี้ มีอธิบายว่า เหมือนอย่างว่า เมื่ออุปกรณ์
เครื่องลงโทษมีในพวกมนุษย์ทั้งหลาย การกระทำก็ย่อมมี ฉันใด แม้ใน
นรกนั้น ก็ฉันนั้นนั่นแหละ.
คำถามว่า นายนิรยบาลมีอยู่ในนรกทั้งหลายหรือ ? เป็นของ
ปรวาที. คำตอบรับรองเป็นของสกวาที. ปรวาทีนำพระสูตรมาโดยลัทธิ
ของตนว่า ท้าวเวสสภูก็มิได้ฆ่า แม้ท้าวเปตติราช คือพญาเปรต ก็
มิได้ฆ่า ฯลฯ กรรมของสัตว์นั้นเองย่อมฆ่าเขาผู้สิ้นบุญจากโลกนี้และ
เข้าถึงโลกหน้าในนรกนั้น ๆ
ดังนี้ พระสูตรนั้นสกวาทียอมรับแล้วว่า
นั่นเป็นถ้อยคำที่หยั่งลงในพระศาสนา มีอยู่ ดังนี้.
ในคำเหล่านั้น คำว่า ท้าวเวสสภู ได้แก่ เทพองค์หนึ่ง. คำว่า

ท้าวเปตติราช ได้แก่ เปรตผู้มีฤทธิมากในปิตติวิสัย. ท้าวโสม เป็นต้น
ปรากฏชัดเจนแล้วทั้งนั้น. ข้อนี้ ท่านอธิบายไว้ว่า ท้าวเวสสภู เป็นต้น
ย่อมไม่ฆ่าสัตว์ผู้ละโลกนี้แล้วไปสู่โลกหน้าตามกรรมทั้งหลายของตน
อนึ่ง สัตว์นั้นละที่นั้นไปด้วยกรรมเหล่าใด กรรมทั้งหลายอันเป็นของตน
เหล่านั้นนั่นแหละ ย่อมฆ่าสัตว์ในที่นั้น เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า
จึงทรงแสดงซึ่งความที่สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของของตน มิใช่ทรง
แสดงความไม่มีนายนิรยบาลทั้งหลาย. อนึ่ง บทแห่งพระสูตรทั้งหลาย
ที่สกวาทีนำมากล่าวแล้วว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกนายนิรยบาลย่อมยัง
สัตว์นรกนั้นให้รับกรรมกรณ์ 5 ประการ
เป็นต้น มีอรรถที่ท่านแนะนำไว้
แล้วทั้งนั้นแล.
อรรถกถานิรยปาลกถา จบ

ติรัจฉานกถา


[1823] สกวาที สัตว์ดิรัจฉานมีอยู่ในหมู่เทวดา หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. เทวดามีอยู่ในหมู่ดิรัจฉาน หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. สัตว์ดิรัจฉานมีอยู่ในหมู่เทวดา หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. เทวโลกเป็นกำเนิดแห่งสัตว์ดิรัจฉาน หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. สัตว์ดิรัจฉานมีอยู่ในหมู่เทวดา หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. แมลง ตั๊กแตน ยุง แมลงวัน งู แมลงป่อง ตะเข็บ
ไส้เดือน มีอยู่ในหมู่เทวดา หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1824] ป. สัตว์ดิรัจฉานไม่มีในหมู่เทวดา หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. ช้างตัวประเสริฐ ชื่อ เอราวัณ ยานทิพย์อันเทียม
ด้วยม้าหนึ่งพัน มีอยู่ในหมู่เทวดา มิใช่หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. หากว่า ช้างตัวประเสริฐ ชื่อเอราวัณ ยานทิพย์อัน
เทียมด้วยม้าหนึ่งพัน มีอยู่ในหมู่เทวดานั้น ด้วยเหตุนั้นนะ ท่านจึงต้องกล่าว
ว่า สัตว์ดิรัจฉานมีอยู่ในหมู่เทวดา.